เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปีก่อน สตีฟ จ๊อบส์ ก้าวลงจากการเป็น CEO ของอาณาจักร Apple ซึ่งตำแหน่งนั้นได้ถูกแทนที่ด้วยมือขวาคนสนิทของสตีฟ จ๊อบส์ ซึ่งก็คือทิม คุก โดยทิ้งความกังวลให้กับผู้ถือหุ้นและแฟน ๆ ของ Apple อย่างมากมาย ว่าบริษัทในยุคหลังสตีฟ จ๊อบส์ นั้นจะเป็นอย่างไร
ทิม คุก เป็นบุคคลที่ สตีฟ จ๊อบส์ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างมาก เขาถือว่าเป็นมือต้น ๆ ของวงการที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการจัดการบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) บางสื่อถึงกับยกย่องให้เขาเป็น Master of Operation (ปรมาจารย์ทางด้านการจัดการ) ซึ่งมีผลให้ Apple สามารถกดต้นทุนสินค้าให้อยู่ในระดับที่ต่ำได้ ทำให้บริษัทมีผลกำไรมากมายในช่วงหลายปีทีผ่านมา อีกทั้งยังเคยได้รับความไว้วางใจให้รับตำแหน่ง CEO ชั่วคราว ในช่วงที่ สตีฟ จ๊อบส์ รักษาอาการป่วยอีกด้วย
หลาย ๆ คนค่อนข้างกังวลว่า Apple ในยุคหลังจากสิ้นอัจฉริยะผู้ก่อตั้งอย่างสตีฟ จ๊อบส์แล้ว บริษัทจะดำเนินไปในทิศทางไหน ภาระหนักอึ้งที่ืิ ทิม คุก รับมา เขาจะสามารถสานต่อมันได้ดีเพียงไร ในเมื่อตัวเขาเองก็ยอมรับว่า เขาไม่ใช่อัจฉริยะอย่างสตีฟ จ๊อบส์
นี่คือสรุปผลงานของทิม คุก ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาครับ
- หลังจากก้าวขึี้นรั้งตำแหน่ง CEO เพียง 2 สัปดาห์ ทิม คุก ได้จัดตั้งโปรแกรมช่วยเหลือสังคม โดยบริษัทจะบริจาคเงินเท่ากับจำนวนเงินที่พนักงานบริจาคให้กับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร
- ทิม คุก ขึ้นกล่าว keynote เป็นครั้งแรกในงานเปิดตัว iPhone 4S เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งในวันถัดมา สตีฟ จ๊อบส์ได้จากโลกนี้ไป
- วันที่ 24 มกราคม 2555 บริษัทเปิดเผยว่ามีเงินสดเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์
- เปิดตัว The New iPad ในเดือนมีนาคม ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลามในตลาด
- จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคของ สตีฟ จ๊อบส์
- นำพาบริษัทออกจากองค์กรการรักษาสิ่งแวดล้อม ภายหลังเกิดกระแสต่อต้านวิจารณ์ต่าง ๆ นานา ในด้านลบ บริษัทจึงได้ออกมากล่าวยอมรับผิด และกลับไปเข้าร่วมองค์กรอีกครั้ง
- นำพา Apple เป็นบริษัท ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกในเดือน สิงหาคม 2555 หลังจากมูลค่าหุ้นของ Apple พุ่งทะยานเป็นสถิติใหม่แทบทุกเดือน
ในขณะที่บางเรื่องนั้นได้รับการยอมรับจากสังคมรอบข้างว่า ทิม คุก สามารถทำได้ดีกว่าสตีฟ จ๊อบส์ เช่น
- การแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้แรงงานผิดกฎหมายในประเทศจีน ทิม คุก ได้ตอบโต้โดยการไปเยี่ยมเยียนตรวจสอบโรงงานผลิตสินค้าของ Apple และรับปากที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างทันท่วงที
- พนักงานกว่า 60,000 ชีวิตใน Apple ยอมรับว่ามีความสุขในการทำงานมากขึ้น ทิม คุก นั้นเลือกที่จะไปทานข้าวกับพนักงานทุกระดับของ Apple สนทนากันทุกเรื่อง สอบถามถึงปัญหาต่าง ๆ ในขณะที่สตีฟ จ๊อบส์ จะฝังตัวอยู่ท่ามกลางผู้บริหารชั้นสูงเท่านั้น
- เรื่องของการกุศล ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดในยุคของสตีฟ จ๊อบส์เช่นกัน
- ทิม คุก ทำให้บริษัทมีผลกำไรมากขึ้น 77 % มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 376 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็น 667 ต่อหุ้น ในเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
ในขณะที่สื่อภายนอกตั้งข้อสังเกตุไว้ทั้ง 2 ทางคือ
- ในแง่ลบ สื่อมองว่า Apple เติบโตได้ขนาดนี้ เป็นเพราะรากฐานที่สตีฟ จ๊อบส์เป็นผู้วางไว้อย่างแข็งแกร่ง และบริษัทจะเติบโตไปในระดับนี้อีก 2-3 ปี หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะก้าวเข้าสู่ยุคหลังสตีฟ จ๊อบส์อย่างแท้จริง ถึงตอนนั้นหากทิม คุก ยังคงรักษาโมเมนตัมของบริษัทให้สูงขึ้นไปได้อีก ถึงจะถือว่าเป็นของจริง
- ในแง่ดี สื่อมองว่า ทิม คุก นั้นรั้งบังเหียน CEO มานานแล้ว (ก่อนการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2554 เสียอีก) โดยสื่อเชื่อว่า Tim Cook นั้นดูแลควบคุมทุกอย่างของ Apple ตั้งแต่ช่วงที่สตีฟ จ๊อบส์ ลาป่วยครั้งที่สอง (ประมานปี 2010) แผนงานของบริษัทได้ผลักดันทิม คุก เป็นตัวแทนของสตีฟ จ๊อบส์ โดยคำแนะนำของสตีฟ จ๊อบส์เอง อีกทั้งด้วยฝีมือการจัดการบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ขั้นเทพ บริษัทจะก้าวไปได้ไกลกว่านี้
แล้วคุณละครับ หลังจากได้อ่านบทความนี้กันแล้วรู้สึกอย่างไรกับ ทิม คุก ให้คะแนนกันได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างครับ
