News : Apple ยิ้ม iPod touch ยอดทะลุ 100 ล้านเครื่องไปแล้ว

       Apple ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเครื่องเล่นตระกูล iPod touch ได้ถูกขายไปแล้วมากกว่า 100 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่วันเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กันยายน ปี 2007 จนปัจจุบันได้พัฒนามาจนถึงรุ่นปัจจุบันคือ iPod touch (5th generation)

       ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ Apple ได้เปิดตัว iPod touch Gen5 อีกรุ่นย่อยความจุ 16GB อย่างเงียบๆ โดยมีสเปกทุกอย่างเหมือนกับ iPod touch Gen5 รุ่นก่อนหน้านี้ทุกประการไม่ว่าจะเป็น CPU A5 , หน้าจอ 4 นิ้ว Retina display โดยรุ่นสิ่งที่ต่างออกไปคือ ไม่มีกล้องหลัง ไม่มี Loop แถมให้ และมีให้เลือกแค่สีเทาเท่านั้น

       นอกจากนี้ Apple ยังให้ข้อมูลอีกว่ายอดขาย iPod ทั้งหมด เกินครึ่่งหนึ่งมาจาก iPod touch โดยการจัดการวางตัวอย่างชาญฉลาดโดยให้ iPod touch เป็นเกมคอนโซลแบบพกพา ซึ่งทำให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนที่ไม่ต้องการใช้โทรศัพท์ได้ง่าย

Cr : idownloadblog.com , apple.com

News (ข่าวลือ) : Apple จะออก iPad รุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว

       ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราคงจะได้ยินข่าวลือเรื่องไอแพดมินิที่มาพร้อมหน้าจอเรติน่าและไอแพด 5 ที่จะมีดีไซน์คล้ายไอแพดมินิจากรูปฝาหลังที่หลุดออกมา แต่ล่าสุดนี้แอปเปิ้ลอาจจะออกผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในตระกูลไอแพด ด้วยการเพิ่มน้องใหม่ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นกว่าไอแพดขนาดปกติ

       จากรายงานของ ETNews บอกว่าแอปเปิ้ลกำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจากับบริษัทผลิตหน้าจอและชิ้นส่วนจากเกาหลี เพื่อให้ผลิตหน้าจอและชิ้นส่วนภายในให้กับไอแพดตัวใหม่ที่มีหน้าจอใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว โดยจะใช้ชื่อเรียกรุ่นนี้ว่า iPad Maxi

       เป้าหมายของการออก iPad Maxi ก็คือเจาะกลุ่มตลาด ultrabook และแล็บท็อปขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ด้วยการชูจุดเด่นที่พกพาสะดวกและอายุแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า นอกจากนี้อาจจะรวมไปถึงตลาดเพื่อการศึกษา ที่ทำหน้าจอใหญ่ขึ้น อ่านง่ายขึ้นเพื่อใช้แทนหนังสือเรียนปกติ แอปเปิ้ลเองก็กำลังร่วมกับพันธมิตรพัฒนาเทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ที่ให้มีแสงแกลร์น้อยลงเพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น

Cr : dailygizmo.tv

News : iPhone 5S จะเพิ่มความละเอียดหน้าจอ 2 เท่า

       iPhone 5S จะเพิ่มความละเอียดของจอแสดงผล ... เป็นข่าวรายวันจริงๆสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ของ Apple อย่าง iPhone 5S ที่มีการคาดหมายกันไว้ว่ามันจะเป็นฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ในตระกูล iPhone ตัวแรกที่เปิดตัวในปีนี้ พร้อมกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เพิ่มขึ้นมาใน iPhone 5S

       เว็บไซต์ WeiPhone ของจีนได้รายงานว่า Apple กำลังมีความพยายามในการเพิ่มความละเอียดของหน้าจอแสดงผลใน iPhone 5S ให้มากกว่าจอ Retina Display บน iPhone 5 ซึ่งจะมีการเพิ่มจำนวนพิกเซลจากเดิม 730,000 เป็น 1.5 ล้านพิกเซล ทำให้มีความหนาแน่นของพิกเซลบนหน้าจอขนาด 4 นิ้วนั้นมากขึ้น แหล่งข่าวยังระบุว่าการเพิ่มความละเอียดบนหน้าจอ iPhone 5S ทาง Apple อาจใช้เทคนิคเดียวกับที่ใช้ใน iPad mini ด้วยการขยายขอบจอแสดงผลให้ติดกับขอบตัวเครื่องมากขึ้น หากเป็นไปอย่างที่เว็บไซต์จีนอ้างไว้ก็อาจทำให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน iOS ต้องรับภาระในการปรับความละเอียดของการแสดงผลให้เข้ากับจอแสดงผลใหม่ของ iPhone 5S

       จากข้อมูลดังกล่าวทำให้คิดได้ว่าการมาของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่ปรับความละเอียดของการแสดงผลมาที่ 1080p ส่งผลต่อ Apple พอสมควร การมีจอแสดงผลระดับ Retina Display ที่ให้ความคมชัดชนิดที่สายตาแทบแยกไม่ออกแล้วเป็นตัวชูโรงอาจไม่พอสำหรับ Apple อีกต่อไป ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงที่จะมากับ iPhone 5S จึงเป็นสิ่งที่ Apple ต้องการทิ้งห่างคู่แข่งรายอื่นๆออกไป

Cr : arip.co.th

News : Tim Cook บอกแอปเปิลยังมีของเด็ดรอเปิดตัวอีกมาก, เตรียมรอดู iOS 7 เปลี่ยนแปลงเยอะ

Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลขึ้นเวทีงาน D11 ของ AllThingsD มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

• Cook บอกว่าสถานการณ์ของแอปเปิลยังเป็นปกติดี ไตรมาสก่อนขาย iPhone ได้ 85 ล้านเครื่อง, iPad 42 ล้านเครื่อง, ความพึงพอใจของลูกค้ายังอยู่ในระดับท็อป, อัตราการท่องเว็บจากอุปกรณ์ของแอปเปิลยังสูงกว่าส่วนแบ่งตลาดมาก
• ตลอดการทำงานของเขาที่แอปเปิล บริษัทมีคู่แข่งมากมาย ในอดีตก็ต้องต่อสู้กับไมโครซอฟท์และเดลล์ แต่แอปเปิลมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเสมอ
• แอปเปิลมีแผนลับจำนวนหนึ่งที่ซุ่มทำมาสักระยะแล้ว แผนเหล่านี้จะเปลี่ยนโฉมการแข่งขันเลย

ทีวี

• ขาย Apple TV ได้ทั้งหมด 13 ล้านเครื่องแล้ว ครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้มาจากยอดขายในปีที่แล้วเพียงปีเดียว แอปเปิลจะมีผลิตภัณฑ์ด้านทีวีอย่างแน่นอน แต่บางส่วนจะไม่อยู่ในกรอบของ Apple TV ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่

• เขาวิจารณ์ Google Glass ไม่น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดคนหมู่มาก (mass-market) เพราะคนสายตาดีไม่น่าจะอยากสวมแว่นตาเพิ่ม เขาเล่าว่าตัวเขาเองใส่แว่นเพราะจำต้องใส่ ไม่ได้ใส่เพราะอยากใส่
• แต่อุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ (wearable) น่าจะขยายตลาดได้กว้างกว่า เขาบอกว่าสวมใส่กำไล Nike FuelBand และบอกว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีของผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้

Android

• Cook บอกว่าจับตาดู Android อยู่เสมอ แต่ความสำเร็จของแอปเปิลไม่ได้วัดกันที่ใครขายมากกว่า แอปเปิลไม่ได้ขายพีซีจำนวนมากแต่ขายพีซีที่ดีที่สุดในตลาด
• เขาอ้างสถิติการใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลที่มีส่วนแบ่งตลาดเยอะกว่ายอดขาย และบอกว่าตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมากกว่า ส่งผลกระทบต่อชีวิตของลูกค้ามากกว่า
• ในตลาดมีโทรศัพท์ที่บอกว่าเป็น "สมาร์ทโฟน" แต่เอาเข้าจริงก็ถูกใช้งานเพียงแค่ "ฟีเจอร์โฟน" และแท็บเล็ตบางยี่ห้อขายได้จริงแต่กลับไม่ถูกใช้งานเพราะประสบการณ์การใช้งานแย่
• ปัจจุบันเขาใช้ iPad สำหรับทำงานแทนคอมพิวเตอร์เกือบหมด แต่เขาไม่เคยได้ยินว่ามีคนใช้แท็บเล็ต Android ทำงานแบบเดียวกัน
• แอปเปิลไม่มีปัญหากับการพอร์ตแอพของตัวเอง (ในกรณีนี้คือ iCloud) ไปยัง Android ถ้ามีความเหมาะสมก็ทำ มันไม่มี "เรื่องของศาสนา" มาบังคับอะไร

iOS

• ขอให้ผู้ใช้เป็นคนตัดสินเองว่า iOS รุ่นใหม่จะดีแค่ไหน สำหรับเวอร์ชันนี้ Jonathan Ive เป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนา และมีเป้าหมายในการหลอมรวมฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์-บริการเข้าด้วยกัน
• iOS ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเวอร์ชันนี้ (it has been an incredibly great change)
• เราจะเห็นแอปเปิลเปิดกว้าง iOS มากขึ้นในอนาคต แต่ก็ไม่ถึงขั้นเปิดทุกอย่างจนลูกค้าเสียประสบการณ์ในการใช้งาน
• แอปเปิลยังไม่สนใจเปิด API ให้แอพแบบ Facebook Home ออกมาทำงานบนหน้าจอปกติ โดนตอนนี้สนใจเฉพาะการเชื่อม Facebook กับ iOS เท่านั้น
• เขายอมรับว่าแอปเปิลทำ Apple Maps พลาด และกำลังลงทุนจำนวนมากเพื่อพัฒนาระบบแผนที่ของตัวเอง ตอนนี้มันดีขึ้นมากแต่ยังไม่พอ

iPhone จอใหญ่

• มือถือจอใหญ่มีสิ่งที่ต้องแลกมา ผู้บริโภคไม่ได้ตัดสินใจซื้อมือถือเพียงแค่ขนาดของจอภาพอย่างเดียว แต่ยังดูสีสันที่ถูกต้อง อายุของแบตเตอรี่ ความสว่างของหน้าจอ ฯลฯ ลูกค้าของแอปเปิลต้องการ "สมดุล" ระหว่างปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ และแอปเปิลยังเชื่อว่าจอ Retina Display ของตัวเองดีที่สุดในตลาด

ปัญหาภาษี

• Cook บอกว่าแอปเปิลมีความเห็นต่างไปจากคณะอนุกรรมาธิการของสภา และรู้สึกว่าจำเป็นต้องแสดงจุดยืนที่แตกต่างให้ชัดเจน พร้อมกับเสนอการแก้ไขโครงสร้างภาษีนิติบุคคลด้วย
• เขาตอบเรื่องการจ่ายภาษีของแอปเปิลในไอร์แลนด์ (เพื่อเลี่ยงภาษีในประเทศอื่นๆ) ว่าแอปเปิลไม่มีข้อตกลงพิเศษใดๆ กับรัฐบาลไอร์แลนด์

การซื้อกิจการ

• แอปเปิลซื้อกิจการอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะเสมอไป ในปีงบประมาณนี้ซื้อไปแล้ว 9 บริษัท
• ตอนนี้ไม่ได้ตั้งเป้าซื้อบริษัทใดเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ปิดกั้นตัวเองถ้ามีโอกาส
• เขาบอกว่าแอปเปิลไม่จำเป็นต้องมี social network ของตัวเอง
• แอปเปิลไม่สนใจยื่นข้อเสนอซื้อ Waze เหมือนกับบริษัทอื่นๆ ที่มีข่าว
• แอปเปิลไม่สนใจเป็นเจ้าของ content และไม่ซื้อบริษัททำ content แต่ใช้ยุทธศาสตร์ว่าต้องเข้าถึง content ชั้นยอดได้

Cr : blognone.com , allthingsd.com

News : เตือนภัย !! เมลล์หลอก อ้าง Apple แจกรางวัล 100 ล้านปอนด์

       หลังจากมีผู้ใช้งานหลายรายมาถามทางเพจว่ามีการแจกรางวัลจาก Apple จริงหรือไม่ เนื่องจากเงินรางวัลสูงมากถึง 100 ล้านปอนด์ 

       หลายท่านที่ได้รับ เมื่อลองอ่านจะพบว่า เมลล์ต้องการข้อมูลส่วนตัวของเราตั้งแต่ ชื่อจริง , ชื่อที่ใช้บน network , เบอร์โทร , ที่อยู่ , เพศ , สัญชาติ , อาชีพ จึงได้ลองตรวจสอบคร่าวๆจึงตั้งข้อสงสัยดังนี้

• โดยปกติเมลล์จาก Apple จะเป็น xxx@apple.com , xxx@itunes.com , xxx@icloud.com
• เงินรางวัลมากขนาดนี้แต่ไม่ข่าวจาก Apple โดยตรงเลย
• +44-704-206-8673 ไร้วี่แววการเกี่ยวข้องจาก Apple
• ที่อยู่ที่ให้มาไม่มีสำนักงาน Apple อยู่บริเวณนั้น
• iPhone ไม่มีสีชมพู

       ซึ่งเมื่อลองเข้าไปดูบอร์ดพูดคุยในเว็บ Apple จะพบว่ามีเมลล์ลักษณะนี้ (1,2,3) ถูกปล่อยมาสักพักแล้ว ยังไงก็ระวังๆการให้ข้อมูลส่วนตัวจากแหล่งที่ไม่รู้ที่มาที่แน่นอนนะคับ

#ขอบคุณรูปจากคุณ Iam Icn MK 

News (ข่าวลือ) : iOS 7 เน้นสีขาว-ดำ ใช้ดีไซน์แบบแบนราบ ลดแสงและเงา

เราเห็นข่าวลือของ iOS 7 ที่ว่า Jonathan Ive เข้าไปรื้อดีไซน์ใหม่หมด กันมาหลายรอบ

เว็บไซต์ 9to5Mac อ้างแหล่งข่าววงใน เผยข้อมูลของแนวทางออกแบบ iOS 7 ดังนี้ครับ

• ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แอปเปิลปรับโครงสร้างการดีไซน์ของ iOS 7 มาหลายรอบแล้ว
• Ive รื้อหน้าตาของ iOS 7 ทั้งหมด ไม่ได้เลือกแก้ไขแค่จุดใดจุดหนึ่ง ทำให้ภาพรวมดูสอดคล้องกัน
• แนวทางการออกแบบจะเน้นสีขาว-ดำ และดีไซน์แบบแบนราบ (flat)
• การออกแบบตามวัสดุที่มีลาย (texture) หรือเลียนแบบวัตถุจริง (skeuomorphic) ถูกหั่นออกไปเกือบหมด เพราะ Ive มองว่าแนวทางนี้ล้าสมัยง่าย แถมยังทำให้แอพแต่ละตัวมีหน้าตาแตกต่างกันมาก (เช่น Game Center ที่มาแนวคาสิโนกับ Notes ที่เลียนแบบสมุดบันทึก)

ส่วนข้อมูลของแอพรายตัวที่หลุดออกมา มีดังนี้

Lock Screen

• แถบสีโปร่งใสและปุ่มที่มันวาวจะเปลี่ยนเป็นแถบสีดำ ไม่มีเงาสะท้อน
• ตารางสี่เหลี่ยมสำหรับใส่ PIN กลายเป็นปุ่มกลมสีดำ ข้อความสีขาว ขอบสีขาว
• อาจใช้ gesture กับ notification ในหน้า lock screen ได้
• วิธีการปลดล็อคยังเหมือนเดิม แค่หน้าตาเปลี่ยน

Notifications

• ภาพพื้นหลังที่ดูเหมือนลายผ้าลินินจะถูกเอาออก ใช้สีพื้นเป็นเทาเข้ม-ดำ ตัวอักษรสีขาว
• แอปเปิลอาจเพิ่ม widget อื่นๆ เข้ามา เช่น ตัวอ่านข่าว และปุ่ม toggle สำหรับเปิดปิด Wi-Fi/Bluetooth

Home Screen

• หน้าตาโดยรวมยังเหมือนเดิม
• ไอคอนของแอพยังเป็นสี่เหลี่ยมมุมโค้ง แต่ภาพไอคอนจะลดความมันวาวและเงาพื้นหลังลง
• ไอคอน Game Center ใช้ภาพแบบเดิมแต่เอาลายตารางหมากรุกออก เอาสีเขียวออก
• เพิ่มภาพพื้นหลังแบบพานอรามา (เหมือนกับ Android)
• แถบต่างๆ จะมีความโปร่งใสลดลง และเอา gradient ออก

Apps

• แอพของแอปเปิลทุกตัวจะใช้สีขาวเป็นสีพื้นหลัก แต่แอพแต่ละตัวจะมีสีเฉพาะของตัวเอง
• แอพ Notes จะไม่ใช้สีเหลืองแล้ว เป็นสีขาวแทน
• แอพ Newsstand ถูกถอดภาพชั้นไม้วางหนังสือออก
• FaceTime บน iPhone จะถูกแยกออกมาเป็นแอพเฉพาะ ให้เหมือนกับบน iPad เพราะผู้ใช้สับสน

Cr : blognone.com

News : สกุลไฟล์ GIF ออกเสียงว่า "จิ๊บ" ไม่ใช่ "กิ๊บ"

       GIF หรือ Graphics Interchange Format เป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งชื่อไฟล์ GIF ก็ได้เป็นคำแห่งปี (word of the year) ในปี 2012 ผู้สร้างไฟล์ GIF นั้นคือ Steve Wilhite ได้รับรางวัล lifetime achievement award จาก The Webby Awards เมื่อวานนี้ (21 พฤษภาคม 2013)

       ขณะที่สร้างไฟล์ GIF นั้น Wilhite ทำงานอยู่ที่ CompuServe (เป็น ISP ของสหรัฐฯ) โดยกำเนิดแล้ว ไฟล์ GIF นั้นสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในบริษัทในการแสดงผลภาพ เช่น สีในแผนที่อุตุนิยมวิทยา โดยไฟล์ GIF ไฟล์แรกนั้นเป็นรูปเครื่องบินกระดาษที่เคลื่อนไหวได้ 10 กว่าปีให้หลังจากที่ Wilhite เกษียณจากการทำงาน เขาก็ยังได้รับคำชื่นชมในการสร้างไฟล์นี้อยู่ แต่เขาก็มีสิ่งหนึ่งที่ต้องอธิบายให้กระจ่างนั่นก็คือการออกเสียงของชื่อไฟล์ เขาจึงใช้เวทีของ The Webby Awards ในการบอกว่า "มันออกเสียงว่า จิ๊บ ไม่ใช่ กิ๊บ"

Cr : blognone.com

News (ข่าวลือ) : แอปเปิลทดสอบหน้าจอ OLED ขนาด 1.5 นิ้วสำหรับใช้กับ Smart Watch

       มีข่าวลือว่าแอปเปิลเริ่มทดสอบหน้าจอ OLED ขนาด 1.5" สำหรับใช้กับ Smart Watch โดยข้อมูลดังกล่าวออกมาจากบล็อกภาษาญี่ปุ่น Macotakara ที่รวบรวมข้อมูลมาจากหนังสือพิมพ์ไต้หวัน Economic Daily News

       หน้าจอ OLED ขนาด 1.5" นี้ไม่ใช่หน้าจอขนาดที่แอปเปิลตั้งใจจะใช้ตั้งแต่ต้น แต่เป็นการลดขนาดลงมาจาก 1.8" ที่ดูจะใหญ่เกินไป และหน้าจอล็อตนี้จะสั่งจาก RiTdisplay เพื่อมาผลิตสินค้าตัวอย่างจำนวน 1,000 ชิ้น โดยมีผู้ผลิตเป็น Foxconn นั่นเอง

       ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือระบุว่า Smart Watch ของแอปเปิลจะใช้หน้าจอโค้ง และรันระบบปฏิบัติการ iOS อีกด้วย

Cr : blognone.com

News : อดีตซีอีโอ Intel เผย iPhone รุ่นแรกเกือบใช้ชิป Intel แล้ว ติดเพียงแค่ Apple ไม่ยอมจ่ายตามที่ต้องการ

     Paul Otellini อดีตซีอีโอของ Intel ที่เพิ่งจะลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Atlantic ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา โดยได้พูดย้อนไปถึงช่วงก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 ด้วย ซึ่งเขาเปิดเผยว่า

       “ในช่วงก่อนที่จะเปิดตัว iPhone ออกมานั้น เชื่อได้ว่าไม่มีใครรู้หรือคาดการณ์ได้ว่า iPhone มันจะออกมาเป็นอย่างไรในตลาด จะทำอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องของการใช้ชิปประมวลผลนั้น อันที่จริง Apple ให้ความสนใจกับชิปรุ่นหนึ่งของเรา (Intel) มากๆ จนเกือบจะได้ถูกนำไปใช้ใน iPhone รุ่นแรกแล้ว ติดก็เพียงแค่ว่า Apple จะจ่ายในราคาต่ำกว่าที่ Intel ตั้งเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถดีลกันได้ และกลายเป็นว่า iPhone หันไปใช้ชิปตระกูล ARM แทนมาจนถึงปัจจุบัน”

       แต่ทั้งนี้ หลังจากมีบทสัมภาษณ์ดังกล่าวออกมา ก็มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ในขณะนั้น (หรือแม้กระทั่งสองสามปีให้หลัง) Intel เองยังประสบปัญหาเรื่องอัตราการกินพลังงานที่สูงเกินกว่าจะนำมาใช้ในมือถืออยู่เลย จึงน่าสงสัยว่า Apple เคยคิดจะนำชิปของ Intel มาใช้บน iPhone จริงๆ อย่างที่ Intel พูด​จริงหรือเปล่า

Cr : specphone.com

News : สำรวจพบ"วัยรุ่นไทยนอนไม่เพียงพอ" เหตุเล่น LINE , Facebook

       ผลสำรวจเด็กไทยระดับ ม.ต้น-อุดมศึกษา 3,000 คน พบร้อยละ 37 นอนไม่เพียงพอ โดยร้อยละ 35.5 ระบุเล่นเฟซบุ๊ก ไลน์ แชต กับเพื่อนก่อนนอน ขณะที่เยาวชนใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มถึง 2 เท่า...

       ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าวว่า จากการสำรวจเด็กไทยระดับ ม.ต้นถึงอุดมศึกษาประมาณ 3,000 คน ช่วงเดือน ม.ค.56 พบสิ่งน่าเป็นห่วง อาทิ ร้อยละ 37 ระบุนอนไม่เพียงพอ และสิ่งสุดท้ายที่ทำก่อนนอนร้อยละ 35.5 ระบุเล่นเฟซบุ๊ก ไลน์ แชต กับเพื่อน เยาวชนใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มเป็น 2 เท่า ส่งผลให้มีเวลากับครอบครัวน้อยลง
       ที่น่ากังวลพบร้อยละ 29 ถูกคุกคามผ่านสังคมออนไลน์ และพบว่าเพศชายถูกคุกคามมากกว่าหญิง, ร้อยละ 40 มีปัญหาสุขภาพจิต เครียด ล่าสุดตนได้รับเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.พบข้อมูลเด็ก กทม.มีภาวะเครียดหนัก เพราะแข่งขันจากการเรียน ทั้งนี้การเรียนยุคใหม่จะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ตอบโจทย์ชีวิตให้ได้ ไม่ใช่เรียนเพื่อไปรบในสมรภูมิของการสอบ การศึกษาต้องมีทางเลือกใหม่ๆ โดยเฉพาะการสร้างทักษะการงาน ทักษะชีวิตให้กับเด็ก และรัฐต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ท้องถิ่น หรือแม้แต่เยาวชนให้มีส่วนร่วมจัดการศึกษา

Cr : thairath.co.th

Free App แนะนำ : N.O.V.A. 3 - Near Orbit Vanguard Alliance (Games)

N.O.V.A. 3 - Near Orbit Vanguard Alliance

By Gameloft

This app is designed for both iPhone and iPad

• Free
• Category: Games
• Updated: Jan 14, 2013
• Version: 1.0.3
• Size: 1.69 GB
• Languages: English, Chinese, French, German, Italian, Japanese, Korean, Portuguese, Russian, Simplified Chinese, Spanish, Traditional Chinese
• Seller: Gameloft
• © 2013 Gameloft. All rights reserved. Gameloft, the Gameloft logo and N.O.V.A. Near Orbit Vanguard Alliance are trademarks of Gameloft in the U.S. and/or other countries.

Rated 12+ for the following:

• Frequent/Intense Cartoon or Fantasy Violence
• Frequent/Intense Realistic Violence

Requirements: Compatible with iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S, iPhone 5, iPod touch (3rd generation), iPod touch (4th generation), iPod touch (5th generation) and iPad. Requires iOS 4.3 or later. This app is optimized for iPhone 5.

โหลดฟรีที่นี่ >Click<

News : กิจกรรมประมูลการกุศล เพื่อจิบกาแฟกับ Tim Cook ปิดยอดแล้วที่ $610,000 หรือราวๆ 18,000,000 บาท

       เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ CharityBuzz ได้จัดการประมูลแบบออนไลน์เพื่อไปจิบกาแฟกับ Tim Cook ซีอีโอคนปัจจุบันของ Apple ที่สำนักงานใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อจะนำยอดเงินประมูลของผู้ชนะไปบริจาคการกุศล ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็มีผู้ให้ความสนใจประมูลหลากหลายรายมาก

       ล่าสุดทาง CharityBuzz ได้ปิดการประมูลตามกำหนดเวลาแล้ว ผลออกมาก็คือรางวัลตกเป็นของผู้ร่วมประมูลที่ใช้ชื่อว่า a********s. ด้วยยอดประมูลสูงถึง $610,000 หรือกว่า 18,000,000 บาท ทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะการประมูลเหนือผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 118 คน ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือ นี่เป็นการลงเงินประมูลครั้งแรกของเขาในรายการนี้ และเป็นการลงเงินในช่วง 30 นาทีสุดท้ายก่อนจะปิดการประมูล (เรียกว่าโผล่มาปิดเกมเลยก็ว่าได้) โดยเงินยอดประมูลจะถูกบริจาคเข้ายังมูลนิธิ RFK Center ที่ดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งมี Robert F. Kennedy เป็นประธานมูลนิธิอยู่

โดยนอกจากจะมีการประมูลเพื่อไปจิบกาแฟกับ Tim Cook แล้ว ยังมีกิจกรรมและคนดังอีกหลายรายที่เข้าร่วมในกิจกรรมเพื่อการกุศลครั้งนี้ด้วย ตัวอย่างเช่น

• David Beckham เปิดให้ประมูลรองเท้าสตั๊ดรุ่นพิเศษของเขา
• ร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงประกอบฉากในภาพยนตร์ของ Jim Carrey
• ร่วมแสดงกับ Chris Hemsworth ในภาพยนตร์ของ Michael Mann เรื่องต่อไป
• รับประทานอาหารกับ Francis Ford Coppola ในไร่องุ่นที่ Napa Valley
• ร่วมรับประทานอาหารกับ Martin Luther King III และเดินทัวร์ใน King Center ใน Atlanta

      ปล. เท่าที่ลองไล่ดูในโครงการประมูลเพื่อมูลนิธิ RFK Center นี้ ดูเหมือนจะเป็นยอดปิดประมูลที่สูงที่สุดในรายการทั้งหมดนะครับ

Cr : specphone.com

News : หมดเวลาเล่นตัว!! BlackBerry เตรียมส่ง BBM ลง iPhone และ Android ในเร็วๆนี้

       ภายในงาน BlackBerry Live 2013 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆร้อนๆ เมื่อช่วงท้ายของงานทาง CEO ของ BlackBerry ได้เผยว่าถึงเวลาแล้วที่ BBM จะสามารถใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ซึ่ง BBM จะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีในช่วงหน้าร้อนที่จะมาถึงคือประมาณมิถุนายนถึงสิงหาคมนี้ ใครที่ต้องการใช้งานสามารถติดตั้งผ่านทาง App Store และ Google Play

ความสามารถของ BBM บน iOS และ Android

• The immediacy of BBM chats
• Multi-person chats
• Voice note sharing
• BlackBerry Groups, where BBM users are able to set up groups of up to 30 people and share calendar, photos, files and more

       ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวลือออกมาว่าทาง BlackBerry เคยมีแผนการนำแอพ BBM แชตยอดฮิตเมื่อ 2 ปีก่อนมาลงบนระบบปฏิบัติการอื่น แต่ก็ถูกทางผู้บริหารจากทาง BlackBerry ออกมายืนยันว่าไม่มีการนำ BBM ไปลงระบบอื่นแน่นอน แต่เมื่อถึงวันนี้ดูเหมือนทาง BlackBerry ต้องการขยายกลุ่มผู้ใช้งาน BBM ไปยังระบบอื่น เพื่อต่ออายุให้กับ BBM ต่อสู้กับแอพแชตอื่นที่นับวันยิ่งมาแรงอย่าง LINE ,WhatsApp หรือ WeChat

Cr : flashfly.net

News : iTunes ทำรายได้ให้ Apple ราวไตรมาสละ 5.5 พันล้านดอลลาร์

       Horace Dedio นักวิเคราะห์จาก Asymco รายงานว่า Apple มีรายได้จากการขายแอพและเนื้อหาต่างๆ ผ่าน iTunes ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส ซึ่งเท่ากับ 22 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

       ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขก่อนหักส่วนแบ่งให้แก่นักพัฒนาและเจ้าของเนื้อหาต่างๆ โดย Dedio ประเมินว่าตัวเลขเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายที่ลูกค้า Apple ยอมเสียไปกับการซื้อแอพและเนื้อหาดิจิทัลต่างๆ บน iTunes อยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์ต่อปี กอปรกับข้อมูลที่ว่าปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ iTunes ทั่วโลกเกินกว่า 500 ล้านคน นั่นจึงเป็นที่มาของตัวเลขรายได้มหาศาลข้างต้น

       ปัจจุบันนี้ iTunes มีอัตราการดาวน์โหลดแอพและเนื้อหาดิจิทัลต่างๆ จากผู้ใช้งานมากกว่า 1,000 ครั้งต่อวินาที โดยร้อยละ 80 เป็นการดาวน์โหลดแอพต่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักพัฒนาแอพบน iTunes จะได้รับเงินรวมกันกว่า 9 พันล้านดอลลาร์จาก Apple ในปีที่ผ่านมา

       สิ่งที่ได้รับความนิยมในการดาวน์โหลดรองลงมาจากแอพ ก็คือเพลงต่างๆ ส่วนคลิปวิดีโอ (ทั้ง MV, รายการทีวี, ภาพยนตร์) ตามมาเป็นอันดับ 3 และหนังสือดิจิทัลอยู่ในอันดับที่ 4

Cr : blognone.com

News : ภาพเปรียบเทียบคุณภาพของกล้องไอโฟนทุกรุ่นตั้งแต่ปี 2007

       Camera+ เจ้าของแอพถ่ายภาพที่ใช้ชื่อเดียวกัน ได้โพสต์รูปเปรียบเทียบคุณภาพของภาพถ่ายที่ได้ ตั้งแต่ไอโฟนรุ่นแรก (ที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า iPhone classic) มาจนถึงรุ่นล่าสุด iPhone 5

       จากในภาพ จะสังเกตได้ว่าคุณภาพกล้องดีขึ้นมากอย่างก้าวกระโดด ก็คือช่วงจาก iPhone 3G มา iPhone 3GS ซึ่งตอนนั้นแอปเปิลเริ่มเอากล้องถ่ายรูปบนมือถือมาเป็นจุดขายอย่างจริงจัง และได้ใส่คุณสมบัติในการโฟกัสรูปเข้ามา และทั้งหมดนี้อาจจะต้องชมการแข่งขันในตลาด

Cr : blognone.com , campl.us

News (ข่าวลือ) : AppleCare จะเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนที่มีปัญหาแทนการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้

       เว็บ AppleInsider รายงานว่าแอปเปิลได้จัดการประชุมที่ Town Hall ภายในบริษัท แล้วได้มีการพูดถึงบริการ AppleCare หรือรับประกันสินค้าปัจจุบันว่าต่อไปนี้ แอปเปิลจะเริ่มเปลี่ยนวิธีการให้บริการลูกค้า ด้วยการซ่อมสินค้า iOS ที่มีปัญหา แทนการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้กับลูกค้าโดยสิ้นเชิงแล้ว และคาดว่าแอปเปิลจะสามารถประหยัดเงินได้เกือบสามหมื่นล้านบาทจากการเปลี่ยนนโยบายใหม่ครั้งนี้

       โดยทุกวันนี้ ร้าน Apple Store สามารถซ่อมหรือเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนที่มีปัญหาภายในไอโฟนได้แล้ว เช่น ลำโพง, ปุ่ม Home, มอเตอร์สำหรับการสั่น และแบตเตอรี่ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ แอปเปิลจะสามารถเปลี่ยนจอภาพ และภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถเปลี่ยนปุ่ม Sleep/wake และลอจิกบอร์ดของเครื่องได้

       ทางเว็บบอกว่า ข้อดีของการซ่อมเฉพาะจุดที่เสีย ทำให้ลูกค้าไอโฟนที่หมดประกันไม่ต้องเสียค่าบริการในการ swap out หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่จ่ายเฉพาะค่าซ่อมจุดที่มีปัญหาแทน

       นอกจากนี้ แอปเปิลอาจจะเปลี่ยนวิธีการจำหน่ายประกัน AppleCare เพิ่มเติม จากเดิมที่จะมีการขายประกันที่ติดเฉพาะอุปกรณ์ มาเป็นการสมัครสมาชิกแบบจ่ายรายเดือนแทน

Cr : blognone.com

News : แอปเปิลขอให้ LINE ถอดการส่งสติ๊กเกอร์เป็นของขวัญในแอพ

       LINE ออกมาประกาศบนบล็อกว่าผู้ใช้แอพบน iOS จะไม่สามารถส่งสติ๊กเกอร์เป็นของขวัญให้เพื่อนได้แล้ว โดยให้รายละเอียดสั้นๆ ว่าทางแอปเปิลเป็นคนขอให้ถอดฟีเจอร์นี้ออกเอง

       อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้ยังมีเหรียญที่ใช้ซื้อสติ๊กเกอร์เหลืออยู่จะสามารถส่งของขวัญให้กันได้จนกว่าเหรียญจะหมด แต่หากมีเหรียญเหลือเพียง 50 เหรียญให้ติดต่อทางทีมงาน

       การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะแอพบน iOS ส่วนชาวแอนดรอยด์นั้นยังสามารถส่งสติ๊กเกอร์ให้กันได้ตามปกติครับ

Cr : blognone.com

News : 3 ค่ายมือถือยืนยัน ราคา 3G ใหม่เหมาะสมแล้ว

       หลังจาก 3 ค่ายมือถือของไทยเปิดตัวบริการ 3G/4G บนความถี่ 2100MHz กันหมดแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีคำถามเรื่อง "ค่าบริการลดลง 15%" ตามเงื่อนไขของ กสทช. ที่หลายคนมองว่าค่ายมือถือหลบเลี่ยงไม่ยอมปฏิบัติตาม
ไทยรัฐออนไลน์มีบทสัมภาษณ์ผู้บริหารจากค่ายมือถือทั้งสามในเรื่องนี้ ขอคัดเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจมาดังนี้ครับ

AIS

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์ และบริการดิจิตอล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

มั่นใจว่าแพ็กเกจใหม่นี้ให้ความคุ้มค่ามากกว่า 15% ตามกฎที่ กสทช. ระบุไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีการผสมผสานสิทธิประโยชน์ทั้งการเพิ่มปริมาณการใช้งาน โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต และปรับลดค่าบริการ ขณะเดียวกันก็มีแพ็กเกจหลากหลายราคารองรับการใช้งานและความต้องการของลูกค้า
"การันตีว่าแพ็กเกจใหม่สำหรับใช้งาน 3จี คลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ของเอไอเอสเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นทุกแพ็กเกจ เชื่อว่าเป็นแพ็กเกจที่เร้าใจที่สุดในตลาดขณะนี้ ส่วนประเด็นการเปลี่ยนแพ็กเกจหรือซื้อแพ็กเกจเพิ่มถึงจะสามารถใช้บริการได้นั้น เป็นเพราะยังมีคนไม่เข้าใจและกระจายข่าวแบบผิดๆ ออกไป โดยจากนี้บริษัทจะเน้นการทำความเข้าใจกับผู้บริโภคให้มากขึ้น เรายืนยันว่าได้ปฏิบัติตามกฎของ กสทช.อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เรื่องการปรับลดค่าบริการนี้ก็เช่นกัน เพราะเราไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือระเบียบ กสทช.ได้ หากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องหรือเข้าใจไม่ตรงกันเราจะดำเนินการแก้ไขในทันที"

dtac

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

เรื่องแพ็กเกจและโปรโมชั่นนั้น ยืนยันว่าทุกรายการส่งเสริมการขายปรับลดราคาลงแล้ว แม้บางโปรโมชั่นอาจลดไม่ถึง 15% โดยลดลงราว 8-9% แต่ก็มีบางแพ็กเกจที่ลดราคาลงมากกว่า 50% ซึ่งถือว่าสูงเกินกว่าเงื่อนไขของ กสทช.ที่กำหนดไว้ค่อนข้างมาก

TrueMove

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

"ราคาแพ็กเกจในปัจจุบันของเราก็มีการปรับลดลงตั้งแต่ต้นปี ซึ่งมั่นใจว่าสอดคล้องและเป็นไปตามกฎ กสทช. ที่ต้องการให้ปรับลดอัตราค่าบริการลงไม่ต่ำกว่า 15% นอกจากนี้บริษัทก็ปรับลดราคาตามกลไกตลาดอยู่แล้ว โดยสามารถเปรียบเทียบกับแพ็กเกจเมื่อช่วงปลายปี 2555 จะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนทุกแพ็กเกจ"

Cr : blognone.com 

News : มาดูกัน ! สมาร์โฟนรุ่นไหน รองรับ 4G

หลายเดือนที่ผ่านมามีการพูดถึง 3G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz กันอย่างกว้างขวาง สามค่ายยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยอย่าง AIS, DTAC และ TRUEMOVE-H ก็ยืนยันว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ลูกค้าจะสามารถใช้สัญญาณ 3G ได้อย่างเต็มรูปแบบบนคลื่น 2100 MHz ซึ่ง AIS ก็เป็นค่ายแรกที่เปิดตัวบริการ 3G คลื่น 2100 MHz ไปเมื่อวานนี้ (7 พฤษภาคม 2556) และเซอร์ไพร์สของวันนี้ (8 พฤษภาคม 2556) เลยคือ TRUEMOVE-H ที่นำคลื่น 2100 MHz มาทำ 4G LTE พร้อมเปิดตัวบริการดังกล่าวแล้วด้วย แซงหน้า AIS ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

เซอร์ไพร์สครั้งนี้ของ TRUEMOVE-H นำมาซึ่งการตั้งคำถามของลูกค้าว่า บริการ 4G LTE ที่เปิดให้บริการแล้วนั้นจะรองรับกับสมาร์ทโฟนรุ่นใดบ้าง เพราะส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนที่ลูกค้าใช้งานอยู่จะรองรับได้แค่ 3G เท่านั้น วันนี้เพื่อไขข้อข้องใจ Arip จึงขอนำเสนอสมาร์ทโฟนที่รองรับกับ 4G LTE คลื่น 2100 MHz ได้ มาบอกต่อกันครับ

Nokia Lumia 920

Nokia Lumia 820

Sony Xperia V

ส่วนตระกูล Apple อย่าง iPhone 5, iPad mini และ iPad with Retina display ต้องรอ Apple ออก Firmware สำหรับใช้งาน 4G ในประเทศไทยก่อน

(สำหรับผู้ที่ใช้ iPhone 4, 4S หมดสิทธิ์จ้า)

สำหรับ 4G LTE จาก TRUEMOVE-H ยังจำกัดบริเวณใช้งาน โดยจะสามารถใช้งานได้เลยที่ สยามสแควร์, สีลม, สาทร

- สามารถใช้ได้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ, โรงพยาบาลศิริราช, บางส่วนของเส้นทางรถไฟฟ้า BTS, MRT, Airport Link และถนนสายสำคัญ เช่น ถ.พระราม 9, ถ.เพชรบุรี, ถ.สุขุมวิท, ถ.พระราม 4, ถ.พระราม 6 รวมถึงเขตปริมณฑล เช่น นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ

- จะขยายไป 15 หัวเมืองภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ พัทยา หัวหิน ชะอำ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย นครปฐม อยุธยา พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสงขลา

ข้อมูลจาก TRUEMOVE-H

Cr : arip.co.th

News : ลือครั้งใหม่!! iPhone โลว์คอส จะผลิตล็อตแรกจำนวนจำกัดเท่านั้น

       พบข้อมูลใหม่เกี่ยวกับข่าวลือของ iPhone โลว์คอสหรือ iPhone ราคาประหยัดอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มีรายงานข่าวลือออกมาจากสำนักข่าว Digitimes ซึ่งอ้างอิงแหล่่งข่าวภายในจากโรงงานสายการผลิตในประเทศไต้หวัน ที่ได้ระบุว่า Apple นั้นมีแผนที่จะผลิต iPhone โลว์คอสในล็อตแรกที่เริ่มเปิดตัวจำนวนจำกัด เพียง 2.5-3 ล้านเครื่องเท่านั้น 

       โดยสาเหตุหลักที่ Apple มีแผนผลิต iPhone โลว์คอสจำนวนจำกัดนี้ก็เพื่อทดสอบผลตอบรับจากตลาดหลังจากเปิดตัวและวางจำหน่าย iPhone โลว์คอสก่อนนั่นเอง อย่างไรก็ตามกระแสข่าวดังกล่าวก็ยังมีข้อขัดแย้งจากบางสื่อว่าการจำหน่ายจำนวนจำกัดดูเหมือนไม่ใช่เป็นธรรมชาติของ Apple ในการเปิดตัวและวางจำหน่าย iPhone สักเท่าใด ดังนั้นคงต้องมาติดตามกันว่าข่าวลือดังกล่าวนี้จะเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด


Cr : flashfly.net

News : แอปเปิลเตรียมฉลอง App Store ยอดดาวน์โหลด 5 หมื่นล้านครั้ง

       แอปเปิลเริ่มนับถอยหลังสู่ยอดดาวน์โหลด 5 หมื่นล้านครั้งบน App Store โดยผู้ที่ดาวน์โหลดแอพครั้งที่ 5 หมื่นล้านพอดีจะได้รับเครดิตมูลค่า 10,000 ดอลลาร์ และรางวัลข้างเคียงอีก 50 คนจะได้รับเครดิตมูลค่า 500 ดอลลาร์

ในโอกาสนี้แอปเปิลยังประกาศแอพยอดนิยมตลอดกาล แยกตามอุปกรณ์และราคาดังนี้

• แอพฟรี iPhone: Facebook
• แอพเสียเงิน iPhone: Angry Birds
• แอพฟรี iPad: Skype
• แอพเสียเงิน iPad: Pages

แอปเปิลเพิ่งฉลองยอดดาวน์โหลด 2.5 หมื่นล้านครั้งไปเมื่อเดือนมีนาคม 2012 ครับ ใครอยากดูข้อมูลเพิ่มเติมลองเข้าไปดูได้ที่ http://www.apple.com/itunes/50-billion-app-countdown/

Cr : blognone.com

News : ผลการทดสอบจากต่างประเทศพบ iPhone 5 ยังอึดถึกทนกว่า Galaxy S4 ในหลายๆ ด้าน

       ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนรุ่นสูงๆ หลายตัว มักได้รับการออกแบบให้มีความคงทนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านของวัสดุ ที่ผู้ผลิตจำเป็นจะต้องออกแบบมาให้ทั้งสวยงาม คงทน บางและมีน้ำหนักเบา ซึ่งหนึ่งในเครื่องที่ได้รับการพูดถึงที่สุดในขณะนี้ก็คือ Samsung Galaxy S4 ที่ Samsung มั่นใจว่าพลาสติกจะช่วยในเรื่องของความคงทนและความยืดหยุ่นได้ดี สมดุลกับปริมาณการผลิตที่จะสามารถทำออกมารองรับความต้องการซื้อของลูกค้าได้ ทาง SquareTrade บริษัทธุรกิจประกันเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ไอทีในสหรัฐฯ จึงได้จัดการทดสอบความทนทานในด้านต่างๆ เทียบกันระหว่าง iPhone 5, Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy S3 และจัดลำดับคะแนนออกมา ซึ่งจะมีการทดสอบรูปแบบต่างๆ ที่สร้างความเสี่ยงต่อการเสียหายของเครื่อง ในขณะใช้งานทั่วไป เช่น ทดสอบการตก, ทดสอบความสามารถในการกันน้ำ เป็นต้น

       ผลออกมาโดยรวมแล้วทั้งสามเครื่องอยู่ในระดับมีความเสี่ยงปานกลางที่จะเสียหายจากการทดสอบแบบต่างๆ ของทาง SquareTrade แต่ถ้าดูย่อยลงไปแต่ละเครื่อง พบว่า iPhone 5 ได้คะแนนดีที่สุดในสามเครื่องคือ 5 คะแนน รองลงมาเป็น Galaxy S3 ที่ได้ 6.5 คะแนน ปิดท้ายด้วย Galaxy S4 ที่ได้ไป 7 คะแนน (คะแนนยิ่งน้อย แสดงว่ายิ่งทน ยิ่งดีกว่า) ซึ่งตัวอย่างสถานการณ์การทดสอบความทนทานก็เช่น การทดสอบปล่อยเครื่องลงมาที่ความสูงจากพื้นประมาณ​ 1.2 เมตร พบว่าทั้ง S3 และ S4 จอแตกด้วยกันทั้งคู่ ส่วนฝาหลังที่เป็นพลาสติกต่างก็มีรอยแตกร้าว ผิดกับ iPhone 5 ที่ใช้บอดี้เป็นอะลูมิเนียมซึ่งให้ความแข็งแรงคงทนกว่า

ส่วนการทดสอบความสามารถในการกันน้ำนั้น ใช้เป็นการทดลองให้เปิดวิดีโอพร้อมมีเสียงออกมาทางลำโพง จากนั้นก็เอาไปจุ่มลงในน้ำ พบว่าทั้งสามเครื่องก็ยังสามารถทำงานได้อยู่ เพียงแต่ตัวของ S3 นั้นเสียงจากลำโพงหายไปเลย หลังขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งวิดีโอที่ทาง SquareTrade ทำการทดสอบไว้ สามารถคลิกชมได้จากด้านล่างนี้ครับ

นอกจากนี้ SquareTrade ยังเผยสถิติปิดท้ายอีกด้วย โดยคาดการณ์เอาไว้ว่า

• 20% ของคนอเมริกันน่าจะซื้อ Samsung Galaxy S4 มาใช้งาน
• 12.5% ของกลุ่มคนที่ซื้อ S4 (จากข้อข้างบน) คาดว่าน่าจะทำเครื่องตนเองพังภายใน 6 เดือน

       ส่วนสถิติอีกข้อที่มีการเก็บรวมรวมข้อมูลมาคือ หนึ่งในสามของผู้ใช้สมาร์ทโฟน มักจะทำเครื่องตนเองพังหลังจากใช้งานมาได้ไม่เกินหนึ่งปีเท่านั้น

Cr : specphone.com

News : รู้หรือไม่ อักษร i บน iPhone ย่อมาจากอะไร ?

     เชื่อได้เลย คำถามจากหัวข้อข้างต้น คงจะมีหลายท่านสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ตัวอักษร i ที่อยู่ข้างหน้าผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iMac, iPad, iPhone, iPod touch และอื่นๆ มาจากคำว่าอะไร และมีที่มาอย่างไร บางท่านอาจจะเคยได้ยินมาว่า i นั้น ย่อมาจาก internet หรือ individual แต่สำหรับ Mike Elgan นักเขียนจากเว็บไซต์ cultofmac ได้เผยว่า iPhone รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว หรือ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) นั้น ตัวอักษร i ย่อมาจากคำว่า identity หรือแปลเป็นไทยก็คือ เอกลักษณ์ครับ

     โดยคำว่า identity ไม่ได้หมายถึงเฉพาะ การออกแบบตัวเครื่องเท่านั้น แต่รวมไปถึงเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมต่างๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ข่าวลือต่างๆ ที่เกี่ยวกับ iPhone 5S ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่คาดกันว่า น่าจะถูกนำมาใช้บน iPhone 5S หรือเทคโนโลยี NFC ที่จะเริ่มใช้บน iPhone 5S เป็นรุ่นแรก เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถือว่า เป็นสิ่งที่ทำให้ iPhone 5S มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว จึงทำให้ตัวอักษร i นั้น หมายถึง identity นั่นเอง

     Mike Elgan เผยว่า ถ้าหากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่าง Facebook หรือ Google+ อยู่ไม่รอด แต่เค้าเชื่อว่า Apple จะสามารถสร้างความสำเร็จต่อไปได้อย่างแน่นอน เพราะอะไรน่ะหรือครับ ?? เพราะว่า Apple มักจะมองการณ์ไกลเสมอ สิ่งที่ Apple ได้คิดค้นไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ใช้ได้แค่ปีหรือ 2 ปี แต่สามารถต่อยอดและพัฒนาไปได้เรื่อยๆ นั่นเอง ต่างจาก social network ที่เน้นความนิยม ณ จุดนั้น เมื่อหมดยุคก็ค่อยค้นหาหนทางกันต่อไป

       นอกจากนี้ Mike ยังเชื่อว่า นวัตกรรมที่ Apple ได้คิดค้นให้กับ iPhone นั้น จะถูกต่อยอดไปยัง iMac และ iPad ด้วย โดยเฉพาะ NFC และระบบสแกนนิ้วมือ ที่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า จะสามารถใช้งานอะไรได้บ้าง แต่คาดว่า น่าจะมีการรวมฟีเจอร์ 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน


Cr : techmoblog.com