สืบเนื่องจากเหตุการณ์แอร์โฮสเตสสาววัย 23 ปี ประจำสายการบินเซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ เสียชีวิตเนื่องจากถูกไฟฟ้าช็อตขณะกำลังรับโทรศัพท์มือถือที่บ้านในเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียงเมื่อวันพฤหัสฯ(11 ก.ค.) โดยรายงานข่าวที่เผยออกมาครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์(14 ก.ค.) ระบุโทรศัพท์มือถือที่แอร์ฯสาวผู้เคราะห์ร้ายใช้ คือ iPhone5 ซึ่งฝาด้านหลังของโทรศัพท์รุ่นนี้ เป็นโลหะ
ในวันนี้(16 ก.ค.) กลุ่มสื่อจีนได้อ้างรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์จีน หรือ ซีซีทีวี แจ้งความคืบหน้าการสอบสวนของตำรวจจีน ว่ากลุ่มตำรวจไปยังที่เกิดเหตุ พบโทรศัพท์รุ่น iPhone4 ที่กำลังเสียบปลั๊กชาร์ตแบตเตอรี่อยู่ ข้างๆศพของผู้เสียชีวิต โดยที่อุปกรณ์ได้แก่ สายชาร์ต หัวชาร์ต และปลั๊กไฟ ล้วนอยู่ในสภาพดี ตัวโทรศัพท์ทั้งสองด้านมีรอยไหม้ชัดเจน แต่โทรศัพท์ยังใช้ได้เป็นปกติ
ทั้งนี้ ฝาด้านหลังของรุ่น iPhone4 เป็นกระจก Alluminosilicate ซึ่งเป็นวัสดุผสม Aluminum กับ Silicon ใช้ทำกระจกเครื่องบิน และรถไฟความเร็วสูง
รายงานข่าวของโทรทัศน์จีนยังได้ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่อาจสรุปได้ว่าการเสียชีวิตเนื่องจากไฟฟ้าช็อตขณะรับโทรศัพท์ฯของแอร์โฮสเตสสาวนั้นมาจากปัญหาโทรศัพท์ฯ ขณะนี้ตำรวจกำลังดำเนินการตรวจสอบและยังไม่สรุปผล ด้านบริษัทแอปเปิลก็ยังไม่ได้แถลงการณ์ใดเพิ่มเติม หลังจากที่ได้แถลงแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน แสดงภาพโทรศัพท์มือถือ รุ่น iPhone4 ที่แอร์โฮสเตสรับและถูกไฟช็อตเสียชีวิต
โดยที่โทรศัพท์มีรอยไหม้ (ภาพ สื่อจีน)
ผู้สื่อข่าวจีนยังชี้ว่า จากภาพที่สถานีโทรทัศน์จีนนำมาแสดง อุปกรณ์ชาร์ตแบตเตอรี่ของผู้เสียชีวิต ไม่ใช่อุปกรณ์ของแท้ของบริษัทแอปเปิล
ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจีน นาย เซี่ยน ลี่กัง กล่าวว่า จากรูปการณ์ที่เห็นนั้น มีความเป็นไปได้ว่า “อุบัติเหตุไฟช็อตมาจากปัญหาอุปกรณ์ชาร์ตแบตเตอรี่ปลอม “อุปกรณ์ชาร์ตแบตเตอรี่ที่เป็นของเลียนแบบ อาจลดคุณภาพของวัสดุ ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่นำมาประกอบ ตัวเก็บประจุ (capacitor ) และอุปกรณ์ประกันความปลอดภัย ก็อาจไม่สมบูรณ์ ทำให้ไฟไหลพรวดเข้าไปในตัวประจุของอุปกรณ์ชาร์ตฯ ไฟ 220 โวลต์ (v) ทะลักเข้าไปยังแบตเตอรี่โทรศัพท์โดยตรง
“แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง โดยตามที่พวกเราทราบกัน คือ ญี่ปุน ไต้หวัน ฮ่องกง ใช้แรงดันไฟ (voltage) 110 โวลต์ ส่วนที่แผ่นดินใหญ่ใช้ 220 โวลต์ ถ้าอุปกรณ์ชาร์ตแบตฯเป็นมาตรฐาน 110 โวลต์ ดังนั้น ความสามารถของโวลต์ในการรับไฟก็จะอ่อนลงมาก และอาจทำให้เกิดไฟทะลักเข้าไปได้”
ด้านผู้ค้าโทรศัพท์มือถือ กล่าวว่าระหว่างที่ชารต์แบตฯ อุปกรณ์ชาร์ตจะปรับลดไฟ 220 โวลต์ ลงมาที่ประมาณ 5 โวลต์ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมากๆ เทียบกับร่างกายมนุษย์ที่สามารถทนกระแสไฟขนาด 36 โวลต์ ด้วยเหตุนี้ แม้เกิดไฟรั่วที่โทรศัพท์มือถือ ก็ไม่สามารถทำให้ผู้ใช้ถึงแก่เสียชีวิต ในกรณีที่ถ้าอุปกรณ์ชาร์ตแบตฯเกิดเสียขึ้นมา หรือว่าเกิดปัญหาที่ระบบความปลอดภัย ระหว่างเสียบอุปกรณ์ชาร์ตแบตฯ ไฟ 220 โวลต์ ก็อาจทะลักพรวดเข้าไปในแบตเตอรี่โทรศพท์ และช็อตผู้ใช้ได้
เซี่ยน ลี่กัง ยังชี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตได้นั้น คือโทรศัพท์มีปัญหาเช่นเดียวกัน ทำให้กระแสไฟไหลไปยังฝาหลังของตัวโทรศัพท์โดยตรง “แต่ในสถานการณ์แบบนี้ โทรศัพท์จะไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมอีกต่อไป จากรายงานข่าวของโทรทัศน์จีน iPhone4 ของผู้เสียชีวิตยังใช้งานได้อย่างปกติ”
เมื่อวันอาทิตย์(14 ก.ค.) บริษัท แอปเปิล ได้ออกมาแถลงความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน”
ทั้งนี้ ข่าวของแอร์โฮสเตสสาวผู้เคราะห์ร้าย ถูกเผยแพร่อย่างครึกโครมตามสื่อจีน หลังจากที่ พี่สาวของแอร์ฯสาวผู้เสียชีวิต ใช้นามแฝงว่า M เสี่ยวจิ้ง (M小静1128) โพสต์ข่าวเสียชีวิตของน้องสาวนี้ในสังคมออนไลน์จีน (คล้ายทวิตเตอร์) เวยปั๋ว เมื่อเช้าตรู่วันเสาร(13 ก.ค.) “น้องสาวของฉัน เป็นแอร์โฮสเตส เซาท์เทิร์น ไชน่า! อายุเพียง 23 ปี กำลังเข้าพิธีแต่งงานในเดือนส.ค.นี้! น่าสงสารมาก เธอจากโลกนี้ไปแล้ว หวังว่า บริษัทแอปเปิลจะออกมาอธิบาย!หวังว่าเพื่อนอย่าได้คุยโทรศัพท์ ขณะที่ชาร์ตแบตเตอรี่”
ภาพ นางสาว หง ไอ้หลุน วัย 23 ปี แอร์โฮสเตส สายการบินเซาท์เทิร์น ไชน่า แอร์ ประสบอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตขณะรับโทรศัพท์มือถือไอโพน เธอกำลังเข้าพิธีวิวาห์ในเดือนหน้า (ส.ค.) นี้ (ภาพ สื่อจีน)
เตือนการใช้โทรศัพท์ที่มีแบตเตอรี่ใหญ่
ก่อนหน้านี้ เคยมีรายงายข่าวเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือระเบิด ทำให้ใบหน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บ วงในระบุว่า แบตเตอรี่ขนาด มากกว่า 3,000 mA (Milliampere) ก็คือ ระเบิดลูกหนึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญยังว่า ระเบิดแบตเตอรรี่มือถือ อาจอุบัติขึ้นได้ เนื่องจากเกิดไฟฟ้าช็อตแบตเตอรี่ ความเสียหายจากการระเบิดนี้ ส่วนใหญ่เป็นการไหม้ เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังของผู้ใช้ และถ้าโทรศัพท์เชื่อมต่ออุปกรณ์ชาร์ตแบตฯ ความเสียหายถึงแก่ชีวิตก็อาจเป็นไปได้ แต่มีอัตราน้อยมากๆ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือทั่วไป มีระบบความปลอดภัย
นอกจากนี้ หน้าจอโทรศัพท์มือถือยิ่งมีขนาดใหญ่ ก็ยิ่งกินไฟมาก บางรุ่นต้องใช้แบตฯขนาดมากกว่า 5,000 mA
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำผู้ใช้โทรศัพท์ ดังต่อไปนี้
- เลือกซื้อโทรศัพท์ และอุปกรณ์ชาร์ตแบตเตอรี่ ที่มียี่ห้อน่าเชื่อถือ มีประกันคุณภาพ
- ไม่ควรใช้โทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูง และขณะที่กำลังชาร์ตแบตฯ ควรวางไว้ในที่ที่มีการระบายความร้อน
- หลีกเลี่ยงคุยโทศัพท์มือถือขณะที่กำลังชาร์ตแบตเตอรี่ แม้อัตราการเกิดอุบัติเหตุมีต่ำ แต่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
- อย่าทำโทรศัพท์ตก กระทบ
Cr : manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น