วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

News : แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5 จอ Retina Display ไวด์สกรีน ซีพียูใหม่ Apple A6 แรงกว่าเดิมสองเท่า


สำหรับ iPhone 5 จะว่าเป็นพระเอกของงานก็ใช่ แต่ก็เป็นพระเอกที่ไม่เจิดจรัสสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับข้อมูลที่มีมาให้เห็นตลอด 3 เดือนตรงเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วเลยทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นในงานเปิดตัวลดลงเป็นอย่างมาก
สำหรับ iPhone 5 ตัวเครื่องสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย มาพร้อมหน้าจอขนาด 4 นิ้วความละเอียด 1136×640 พิกเซล ด้านสัดส่วนของเครื่องมีขนาด 123.8×58.6.x7.6 มม. (สูงxกว้างxหนา) และเมื่อเทียบกับ iPhone 4S บางกว่าเดิม 18 เปอร์เซ็นต์และเบากว่าเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนน้ำหนักของ iPhone 5 ก็แค่เพียง 112 กรัมเท่านั้น ด้านความจุตัวเครื่องยังคงมี 16, 32 และ 64GB เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง


การออกแบบตัวเครื่องแอปเปิ้ลบอกว่าโครงเครื่องเป็นอลูมินั่มเกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตเครื่องตระกูล MacBook ที่กว่าจะผลิตออกมาได้ยากเย็นแสนเข็ญ ส่วนขอบเงา ๆ ที่เห็นรอบตัวเครื่องถ้าเพ่งดี ๆ จะเห็นว่าขอบดังกล่าวจะเป็นหน้าตัดเอียงแบบ Diamond Cut ใช้การเจียรแบบพิเศษ ซึ่งแอปเปิ้ลภูมิใจนักหนาว่าสวยงาม สำหรับชิ้นส่วนกระจกที่อยู่ด้านบนและด้านล่าง เพิ่งทราบจากหน้าเว็บแอปเปิ้ลว่าเครื่องสีดำกับเครื่องสีขาวให้วัสดุต่างกัน โดยเครื่องสีขาวจะเป็นกระจกเซรามิก ส่วนเครื่องสีดำใช้กระจกเคลือบสีดำ

ด้านสเป็คของฮาร์ดแวร์แอปเปิ้ลเลือกใช้ซีพียู A6 โดยบอกว่าประสิทธิภาพดีกว่า A5 มากถึง 2 เท่า ส่วนการประมวลผลกราฟิคก็ดีขึ้นกว่าเดิม 2 เท่าเช่นกัน เท่าที่เห็นภาพตัวอย่างเกมที่เล่นบน iPhone 5 ต้องบอกว่าเนียนตาจริง ๆ ส่วนเรื่องแรมในเครื่องแอปเปิ้ลไม่ได้บอกไว้ว่าให้มาเท่าไหร่ และที่หลายคนสงสัยคือซีพียู A6 ที่ใข้เป็นแบบ Dual-Core หรือ Quad Core กันแน่

4G LTE หนีไม่พ้นที่ iPhone 5 ต้องรองรับด้วยแน่ ๆ เพราะ iPad (3rd Gen) ที่ออกมาก่อนรองรับ LTE ไปก่อนหน้านี้แล้ว มีหรือที่ iPhone 5 จะไม่รองรับ 4G LTE โดยระบบ 4G LTE ใน iPhone 5 แอปเปิ้ลบอกว่ารองรับการใช้งานได้ทั่วโลกไม่ว่าจะในอเมริกา, ยุโรป และเอเชีย ต่างกับ iPad (3rd Gen) ที่รองรับ 4G LTE แค่เฉพาะอเมริกาเป็นหลักเท่านั้น โดยความเร็วของ 4G LTE ใน iPhone 5 แอปเปิ้ลไม่ได้ชัด ๆ ว่ารองรับความเร็วเท่าไหร่กันแน่ มีแต่กราฟที่บอกว่าความเร็วในการดาวน์โหลดทำได้ที่ 100Mbps


3G ใน iPhone 5 แอปเปิ้ลเพิ่มประสิทธิภาพให้รองรับ 3G แบบ DC-HSDPA แล้ว (DL 42Mbps/UL 5.76Mbps) ส่วนใช้งานจริงจะได้เท่าไหร่ก็อีกเรื่องเพราะมีปัจจัยหลายอย่างทำให้ความเร็วในการใช้จริงอาจจะได้ไม่ถึงตามสเป็คก็ได้ (ใช้งานจริงขอแค่ 10Mbps/ 2Mbps แบบนิ่ง ๆ ก็ปลื้มแล้ว)

กล้องด้านหน้าของ iPhone 5 เพิ่มความละเอียดมาเป็นระดับ 1.2 ล้านพิกเซล (เดิม VGA หรือประมาณ 3 แสนพิกเซล) ส่วนกล้องด้านหลังยังคงความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเช่นเดิม โดยในส่วนของชิ้นเลนส์แอปเปิ้ลเปลี่ยนจากเดิมที่ใช้แก้วมาเป็นคริสตัล แซฟไฟร์ (sapphire crystal) เป็นวัสดุชนิดใสที่มีความแข็งเป็นรองเพียงแค่เพชรเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าการใช้คริสตัล แซฟไฟร์ก็จะช่วยให้หน้าเลนส์ทนรอยขูดขีดได้มากขึ้นด้วย ด้านประสิทธิภาพของกล้องแอปเปิ้ลบอกว่าปรับปรุงเรื่องการถ่ายรูปในที่แสงน้อยให้ดีขึ้น รายละเอียดภาพดีขึ้นกว่าเดิม กดถ่ายรูปไวขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ โดย iPhone 5 สามารถถ่ายรูปแบบพาโนราม่าได้ด้วย โดยขนาดไฟล์ที่ถ่ายแบบพาโนราม่าจะมีขนาดใหญ่มากสุดถึง 29 ล้านพิกเซล
(ภาพตัวอย่างที่ถ่ายด้วย iPhone 5 : apple.com/iphone/gallery)


และในส่วนของการถ่ายวิดีโอยังคงถ่ายได้แบบ 1080p ตามเดิม แต่ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบกันสั่นให้ดีขึ้น ส่วน Face Detection ขณะถ่ายวิดีโอสามาถจับหน้าได้สูงสุดพร้อมกัน 10 หน้า และในขณะที่เราถ่ายวิดีโออยู่สามารถกดถ่ายภาพนิ่งไปด้วยได้เลย

เรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างแบตเตอรี่ แอปเปิ้ลบอกรวม ๆ ว่าสเป็คเครื่องอย่างซีพียู A6, ชิป 4G LTE ที่ใส่มาได้ปรับปรุงให้กินไฟน้อยแล้ว โดย iPhone 5 ถ้าเทียบสเป็คกับ iPhone 4S จะพบว่าระยะเวลาการใช้งานในส่วนต่าง ๆ ทำได้ดีขึ้นราว ๆ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยในส่วนของ Talk Time บน 3G ตามสเป็คยังคงอยู่ที่ 8 ชั่วโมงเช่นเดิม เรียกว่าต้องทำใจไว้เลยว่าแบตเตอรี่ยังคงหมดเร็วอยู่แน่ ๆ


เรื่องอื่น ๆ ของ iPhone 5 อย่างช่อง Dock แบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงแอปเปิ้ลตั้งชื่อว่า Lightning Connector ถ้าดูจากชื่อก็เหมือนจะเร็วดี แต่ตามสเป็คยังคงรองรับเพียงแค่ USB 2.0 เท่านั้น ส่วนเรื่องการย้ายช่องหูฟังมาอยู่ด้านล่างคงไม่ใช่ประเด็นที่ต้องพูดถึงสักเท่าไหร่เพราะเห็นกันมาตั้งแต่ภาพหลุดข่าวลือในช่วง 3 เดือนที่ผ่านกันเยอะแล้ว ส่วนที่เก็งว่าจะมี ๆ มาตั้งแต่ iPhone 4S ก็คือ NFC ที่สุดท้าย iPhone 5 ก็ยังไม่ใส่เข้ามา งานนี้เลยไม่รู้ว่าตลาด NFC จะบูมหรือจะดับ หรืออาจต้องรอจนกว่าแอปเปิ้ลจะใส่ NFC เข้าไปใน iPhone ตลาดนี้ถึงจะเริ่มบูม

สำหรับอุปกรณ์เสริมที่ออกมาพร้อมกับ iPhone 5 ที่ทุกคนต่างก็จับตาว่าจะขายเท่าไหร่คืออแดปเตอร์แปลงจาก Lightning เป็นหัว 30 pin แบบเดิม ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน 1,090 บาท
ส่วนการวางจำหน่าย iPhone 5 แอปเปิ้ลเริ่มที่ 9 ประเทศก่อนได้แก่อเมริกา, แคนาดา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และสิงคโปร์  โดยทั้งหมดจะเริ่มเปิดหน้าเว็บให้จองวันที่ 14 ก.ย. นี้และจะเริ่มขายวันแรก 21 ก.ย. โดยเป็นครั้งแรกที่มีชื่อของฮ่องกงและสิงคโปร์ติดอยู่ในกลุ่มแรกที่วางจำหน่ายด้วย
ซึ่งถ้าเรามาดูที่ราคาเครื่องในฮ่องกงและสิงคโปร์ก็น่าจะพอทราบคร่าว ๆ ได้ว่าราคา iPhone 5 ในไทยจะสักเท่าไหร่ โดยตอนนี้หน้าเว็บแอปเปิ้ลของทั้งคู่ก็มีราคาขึ้นมาแล้วสำหรับรุ่น 16 GB ดังนี้
  • ฮ่องกง รุ่น 16GB ราคา HK$5588 (ประมาณ 22,350 บาท)
  • สิงคโปร์ รุ่น 16GB ราคา S$948 (ประมาณ 23,900 บาท)
ตามราคาข้างต้นในไทยก็จะอิงกับสิงคโปร์เป็นหลัก ฉะนั้นราคาคงไม่หนีจากที่เห็นกันอยู่แล้วล่ะครับ ส่วนรุ่น 32 และ 64GB ต้องรอวันที่ 14 ก.ย. ที่จะเห็นราคาทั้งหมด
สำหรับกำหนดการขาย iPhone 5 ในกลุ่มที่ 2 แอปเปิ้ลจะเปิดจำหน่ายอีก 22 ประเทศในวันที่ 28 ก.ย. ประกอบไปด้วย ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, เชค รีพลับลิก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลิกเทนสไตน์, ลิธัวเนีย, ลักแซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์ , โปรตุเกส, สโลวาเกีย, สโลวาเนีย, สเปน, สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์
ข้อมูลเพิ่มเติม : apple.com/iphone

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น